สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัด มหาสารคาม

พระธาตุนาดูน




ประวัติและความเป็นมา

       เมื่อปี พ.ศ. 2522 ที่บ้านนาดูน มีการขุดพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์โบราณคดีที่แสดงว่า บริเวณแห่งนี้เคยเป็นศูนย์กลางความเจริญรุ่งเรื่องของนครจำปาศรี เมืองโบราณในอดีต โบราณวัตถุต่างๆ ที่ค้นพบ ได้นำไปแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจังหวัดขอนแก่น และที่สำคัญยิ่งก็คือการพบสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุบรรจุในตลับทองคำ เงิน และสำริด สันนิษฐานว่ามีอายุอยู่ในพุทธศตวรรษที่ 13 – 15 สมัยทวาราวดี นอกจากนี้ยังพบพระพุทธรูป พระพิมพ์ลายหลายแบบจำนวนมาก
สถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ค้นพบทำด้วยทองสำริด แยกเป็น 2 ส่วน คือ
1. ตัวสถูปหรือองค์ระฆัง แบ่งออกเป็น 2 ตอน คือ ตัวสถูปเป็นส่วนที่บรรจุ พระอังคาร (ขี้เถ้า) เทียนดอกไม้ และตอนคอสถูปเป็นส่วนที่บรรจุผอบพระบรมสารีริกธาตุ โดยผอบจะบรรจุพร้อมกัน 3 ชั้น คือ ผอบทองคำ จะซ้อนอยู่ในผอบเงิน ผอบเงินจะซ้อนอยู่ในผอบทองสำริด ทุกผอบมีฝาปิดมิดชิด ภายในผอบทองคำมีพระบรมสารีริกธาตุบรรจุ 1 องค์ มีลักษณะเป็นเกล็ดสีขาวขุ่นขนาดเท่าเมล็ดข้าวสารหักครึ่ง หล่อเลี้ยงไว้ด้วยน้ำมันจันทน์เมื่อเปิดออกมาจะมีกลิ่นหอมมาก
2. ส่วนยอดทำด้วยทองสำริดกลมตัน ทำเป็นปล้องไฉนลูกแก้วและปลียอด ตอนต้นทำเป็นเกลียวสามารถปิดประกอบกับส่วนตัวองค์สถูปได้พอดี
ต่อมารัฐบาลอนุมัติให้ดำเนินการก่อสร้างพระธาตุนาดูนขึ้นในบริเวณที่ขุดพบสถูป เนื้อที่ 902 ไร่ โดยใช้สถูปที่ค้นพบมาเป็นแบบในการก่อสร้างพระธาตุนาดูน องค์พระธาตุมีความสูง 50.50 เมตร จำลองรูปทรงแบบสมัยทวารวดี ภายในประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่ขุดพบ ก่อสร้างเสร็จเมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2530 โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฏราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์มาประกอบพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ขึ้นประดิษฐานไว้ในองค์พระธาตุนาดูน เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2530
       พระธาตุนาดูน ตั้งอยู่ที่ตำบลนาดูน อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม เป็นปูชนียสถานที่สร้างขึ้นเพื่อสิริมงคลแก่ภูมิภาค เป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนาและศิลปวัฒนธรรมของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงเรียกขานว่าเป็น "พุทธมณฑลแห่งอีสาน" รอบองค์พระธาตุมีบริเวณกว้างขวาง จัดแต่งเป็นสวนรุกชาติ ปลูกต้นไม้ในพุทธประวัติ นับเป็นสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนาคู่บ้านคู่เมืองของชาวมหาสารคาม
       คำนมัสการพระธาตุนาดูน  อะติเตกิระ จำปาศรีนะคะเร สัมมาสัมพุทธะ สารีริกธาตุ นาตุละมัง นะคะระฐาเนวะ มหาสาระคามัง นะคะระสีมัง ปัจจุปันนัญจะ สิระสานะมามิ (สิระสานะมามะ)
       อานิสงส์ที่ได้รับ   เพิ่มพูนบารมี ศูนย์รวมความดี บารมีแดนอีสาน

      การเดินทางไปแหล่งท่องเที่ยว เดินทางจากตัวเมืองมหาสารคามใช้เส้นทางหมายเลข 2040ผ่านอำเภอแกดำ อำเภอวาปีปทุม แล้วเลี้ยวขวาเข้าเส้นทางหมายเลข2045 ถึงอำเภอนาดูน ห่างจากตัวเมืองมหาสารคาม ประมาณ  65 กิโลเมต


ประมวลภาพพระธาตุนาดูน




__________________________________________________________________________


แก่งเลิงจาน


ลักษณะโดยรวม
      แก่งเลิงจาน มีสวนสุขภาพแก่งเลิงจานที่กว้าง โล่ง ต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น เหมาะแก่การพักผ่อนและการออกกำลังกาย มีการจัดงบประมาณเพื่อพัฒนาอ่างเก็บน้ำแก่งเลิงจานให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดมหาสารคาม  มีการปรับปรุงรอบ ๆ เขื่อนคันดินให้กว้าง ปลูกต้นไม้ และจัดเป็นสวนสุขภาพตลอดคันความยาวของคันดิน  สร้างพิพิธภัณฑ์ ศาลากลางน้ำ และอื่น ๆ เพื่อให้ผู้ที่ผ่านไปมาและนักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมและทัศนศึกษา เนื่องจากจังหวัดมหาสารคามมีสถานที่ท่องเที่ยวค่อนข้างน้อย และเป็นจังหวัดเดียวของภาคอีสานที่ไม่มีภูเขาเลย  อ่างเก็บน้ำ แก่งเลิงจานจึงถูกใช้เป็นทั้งสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ควบคุมไปกับเป็นแหล่งน้ำที่ใ้ช้ในการประมง การเพาะปลูก
       อ่างเก็บน้ำแก่งเลิงจาน ตั้งอยู่ทิศตะวันตกของตัวเมือง ตั้งอยู่ในเขตตำบลแก่งเลิงจาน อำเภอเมือง  จังหวัดมหาสารคาม ถ้าเดินทางจาก บขส. มาตามเส้นทางไปอำเภอบรบือ จะห่างประมาณ กิโลเมตร แต่คนมหาสารคามที่รู้ทางใ้ช้เส้นทางเลียบคลองสมถวิลไปจนเกือบสุดคลองด้านทิศตะวันตก ใ้ช้ระยะทางประมาณ กิโลเมตรเท่านั้น อยู่ด้านหลังของสถาบันราชภัฏมหาสารคาม บริเวณโดยรอบของแก่งเลิงจานมีทิวทัศน์สวยงาม ในวันหยุดประชาชนนิยมไปพักผ่อนกันมาก 

การเดินทางโดยรถยนต์ : 
         เดินทางจาก บขส. มาตามเส้นทางไปอำเภอบรบือ จะห่างประมาณ 4กิโลเมตร แต่คนมหาสารคามที่รู้ทางใ้ช้เส้นทางเลียบคลองสมถวิลไปจนเกือบสุดคลองด้านทิศตะวันตก ใ้ช้ระยะทางประมาณ กิโลเมตรเท่านั้น อยู่ด้านหลังของสถาบันราชภัฏมหาสารคาม
 

สถานที่ติดต่อ : สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงาน ททท. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต โทร. 0-4324-4498-9 หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ โทร.1672      



ภาพบรรยาการโดยรวม





__________________________________________________________________________


อุทยานโกสัมพี




ประวัติวนอุทยานโกสัมพี

          เดิมพื้นที่วนอุทยานโกสัมพี เป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ (ดอนมเหศักดิ์) ตั้งอยู่บ้านคุ้มกลาง ตำบลหัวขวาง ในเขตเทศบาล ตำบลหัวขวาง อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม อยู่ติดแม่น้ำชี และมีองค์หลวงพ่อมิ่งเมือง ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้าน คู่เมืองของชาวอำเภอโกสุมพิสัยกราบไหว้บูชา นอกจากนี้ยังมีดอนปู่ตา พื้นที่มีสภาพเป็นป่าไม้เบญจพรรณ ต้นไม้ส่วนใหญ่เป็นไม้ยืนต้นขึ้นเป็นจำนวนมากและมีฝูงลิงแสมอาศัยอยู่เป็นจำนวน กว่า 500 ตัว ป่าหนองบุ่งแห่งนี้ เป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ มีศาลเจ้าปู่ ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวอำเภอโกสุมพิสัยแม้แต่ลิงแสมที่อาศัยอยู่เขตวนอุทยานโกสัมพีก็เชื่อกันว่า เป็นลิงของเจ้าปู่ไม่มีใครกล้าแตะต้อง
        แต่เนื่องจากพื้นที่แห่งนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแลรับผิดชอบโดยตรงทางจังหวัดมหาสารคามจึง ได้เสนอขอให้กรมป่าไม้มาดำเนินการจัดการ พื้นที่สาธารณประโยชน์แห่งนี้ให้เป็นวนอุทยานเพื่อให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชนโดยทั่วไปและกรมป่าไม้โดยส่วนอุทยานแห่งชาติ จึงได้เข้ามาดำเนินการแต่งตั้งเป็นวนอุทยาน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2519 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันโดยมีชื่อว่า "วนอุทยานโกสัมพี"
           ที่นี่ก็เป็นอีกสถานที่นึง ที่น่ามาแวะชม แวะให้อาหารลิง พักผ่อนหย่อนใจ ไม่ต้องค้างคืน ด้านหน้าของวนอุทยานโกสัมพีมีพระมิ่งเมืองให้เราได้สัการะก่อนเข้าชมลิงจั๊กๆ อย่าลืมแวะมาให้อาหารน้องลิงกันเยอะๆนะคับ


           อุทยานโกสัมพี : ตั้งอยู่ในเขตท้องที่เขตเทศบาลเมืองโกสุมพิสัย อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม บริเวณ เขตวนอุทยานโกสัมพี ห่างจากตัวเมืองมหาสารคามประมาณ 24 km ใช้เวลาขับรถประมาณ 20 นาที




ภาพบรรยาการโดยรวม






__________________________________________________________________________











ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ

คณะการบัญชีและการจัดการ

การแนะแนวทางการเข้าศึกษาต่อ